ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกำหนดสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่รับ
ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้าศึกษาหรือฝึกอบรม ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังมีอำนาจที่จะประกาศกำหนดสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่รับลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้าศึกษาหรือฝึกอบรม
ตามมาตรา 4(1)
แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(ฉบับที่ 437) พ.ศ.
2548
จึงเห็นควรกำหนดสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน
ขอบเขต
และเงื่อนไข
ดังต่อไปนี้ ข้อ
1
ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกำหนดสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมวิชาชีพที่รับลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้าศึกษาหรือฝึกอบรม
ลงวันที่ 4
พฤศจิกายน
พ.ศ. 2545 ข้อ 2
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมในสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน
จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเป็นจำนวนร้อยละร้อยของรายจ่ายที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้จ่ายในการส่ง
ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมนั้น
ต้องส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรมในสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงาน
ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อ
3 ข้อ 4 ข้อ 5
ข้อ 6 ข้อ 7 ข้อ
8 และข้อ 9 ข้อ
3
สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานที่จะให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องเป็นสถานศึกษา
ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
ตามกฎหมายว่าด้วยสถาบันอุดมศึกษาเอกชน
หรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานเฉพาะที่มีฐานะเป็นมูลนิธิ
สมาคม
บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ ข้อ
4
การให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมต้องเป็นการศึกษาหรือฝึกอบรมในประเทศไทยเพื่อพัฒนาคุณภาพ
ความรู้
ความสามารถ
ทักษะ
ฝีมือของลูกจ้างให้สูงขึ้น
ทั้งนี้
เพื่อประโยชน์ของกิจการของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่เป็นนายจ้าง ข้อ
5
หลักสูตรที่สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามข้อ
3 ใช้ในการ
ให้บริการการศึกษาหรือฝึกอบรมลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
ต้องมีลักษณะ
ดังนี้ (1)
กรณีสถานศึกษา (ก)
ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรของกระทรวงศึกษาธิการสำหรับการศึกษาในระดับที่ต่ำกว่าอุดมศึกษา
หรือ (ข)
ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการสำหรับการศึกษาในระดับอุดมศึกษา
หรือ (ค)
ต้องจัดการศึกษาตามหลักสูตรที่ได้รับอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการสำหรับโรงเรียนนอกระบบ
ตามกฎหมายว่าด้วยโรงเรียนเอกชน
หรือ (ง)
ต้องจัดการฝึกอบรมให้แก่สาธารณชนเป็นการทั่วไป
(Public Training)
หรือให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกันตามหลักสูตรที่
สถานศึกษานั้น
ๆ
ได้จัดขึ้น
(2)
กรณีสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานต้องจัดการฝึกอบรมให้แก่สาธารณชนเป็นการทั่วไป
(Public Training)
หรือให้แก่ลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือ
เดียวกัน
หรือบริษัทหรือห้างหุ้นสวนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์ทางธุรกิจเป็นเครือข่ายกัน
เช่น
ตัวแทนจำหน่ายสินค้า
ศูนย์บริการซ่อมสินค้า
เป็นต้น ข้อ
6
ค่าใช้จ่ายที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจ่ายให้สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามข้อ
3
เพื่อส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม
ประกอบด้วย
(1)
ค่าใช้จ่ายการศึกษาที่เป็นค่าเล่าเรียน
ค่าลงทะเบียนหรือค่าบำรุง
(2)
ค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมที่เป็นค่าธรรมเนียมเข้าอบรมหรือค่าลงทะเบียน
ค่าใช้จ่ายการศึกษาหรือค่าใช้จ่ายการฝึกอบรมตามวรรคหนึ่ง
ให้หมายความรวมถึง
ค่าอาหาร
ค่าที่พัก
ค่าเดินทางเพื่อเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม
และค่าใช้จ่ายในการดูงานในประเทศหรือต่างประเทศตามที่กำหนดในหลักสูตร
(ถ้ามี)
ที่สถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามข้อ
3
เรียกเก็บจากบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลด้วย ข้อ
7
ค่าใช้จ่ายตามข้อ
6
ต้องมีใบเสร็จรับเงินของสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมฝีมือแรงงานตามข้อ
3
ที่ออกให้บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล
เพื่อเรียกเก็บค่าใช้จ่ายการศึกษาหรือค่าใช้จ่ายการฝึกอบรม
เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
กรณีใบเสร็จรับเงินค่าใช้จ่ายการศึกษาตามวรรคหนึ่งที่ได้ออกให้ลูกจ้างซึ่งบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นส่งเข้ารับการศึกษา
ก็ให้ใช้เป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นได้ด้วย ข้อ
8
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลต้องจัดทำรายงานเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายตาม
ข้อ 6
โดยต้องมีรายการและข้อความอย่างน้อยตามแบบที่แนบท้ายประกาศนี้
พร้อมแนบรายละเอียดและกำหนดการฝึกอบรมในหลักสูตรนั้นเก็บไว้ณสถานประกอบการเพื่อเป็นหลักฐานประกอบการใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้ของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้นแสดงต่อเจ้าพนักงาน ข้อ
9
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ส่งลูกจ้างเข้ารับการศึกษาหรือฝึกอบรม
ต้องมีการกำหนดเงื่อนไขให้ลูกจ้างกลับเข้าทำงานให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น
หลังจากสำเร็จการศึกษาหรือผ่านการฝึกอบรมแล้ว ข้อ
10
ประกาศนี้ให้ใช้บังคับสำหรับการจ่ายค่าใช้จ่ายตั้งแต่วันที่
19 ตุลาคม พ.ศ. 2548
เป็นต้นไป
ทั้งนี้
ประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง
การกำหนดสถานศึกษาหรือสถานฝึกอบรมวิชาชีพที่รับลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลเข้าศึกษาหรือฝึกอบรม
ลงวันที่ 4
พฤศจิกายน
พ.ศ. 2545
ให้ยังคงใช้บังคับต่อไป
เฉพาะในการปฏิบัติจัดเก็บภาษีเงินได้ที่ค้างอยู่หรือพึงชำระก่อนวันที่
19 ตุลาคม พ.ศ. 2548
ประกาศ ณ
วันที่ 23
พฤศจิกายน
พ.ศ. 2548 ไชยยศ
สะสมทรัพย์
รัฐมนตรีช่วยว่าการฯ
ปฏิบัติราชการแทน
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
(ร.จ.
ฉบับประกาศและงานทั่วไป
เล่ม 122
ตอนที่ 125 ง
วันที่ 29
ธันวาคม 2548)
|